สมองของเรา จริงๆ แล้ว เกลียด Powerpoint

สมองของเรา

สมองของเรา จริงๆ แล้ว เกลียด Powerpoint

Powerpoint โปรแกรมสำหรับนำเสนองาน ยอดฮิต ที่ไม่ว่าใครที่ไหน อายุเท่าไหร ก็นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ใครจะเชื่อละว่า จริง ๆ แล้วนั้น สมองของเรา เกลียด PP มากกว่าที่เราคิด 

เพราะนักวิทยาศาสตร์ค้นพบเองเลยว่า สมองมันเกลียด PP เป็นอย่างมาก การนำเสนอส่วนมากนั้น จะมาสไลด์ที่ถูกฉายขึ้นบนอุปกรณ์ฉายภาพ และ เต็มไปด้วยข้อความ ที่ผู้นำเสนอ อยากจะนำเสนอ 

พร้อมกันนั้น ก็พูดประกอบการนำเสนอไปด้วย ในประเด็นที่เกี่ยวของกับเนื้อหาของการนำเสนอ ประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ เป็นไปด้วยการที่ผู้นำเสนอ อยากให้ผู้ฟัง เข้าใจสิ่งที่นำเสนอได้ดีขึ้น เนื่องจาก

มีภาพ และ เนื้อใน PP เป็นส่วนประกอบ แล้วใครจะคิดละว่า สมองของเรา จะเกลียด 

 

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ PP ดันเป็นตัวปัญหาจริง ๆ ต่อ สมองของเรา เพราะดันเป็นการเพิ่มการทำงาน ของสมองส่วนเดียวซะอย่างงั้น ในความเป็นจริงแล้วนั้น สมองของเรา ส่วนที่ทำการทำความเข้าใจ 

หรือส่วนใดส่วนนึงก็ตาม ที่กำลังทำหน้าที่นั้นอยู่อย่างเต็มที่ แต่กลับมีงานประเภทเดียวกัน เข้ามาแทรก ในการทำงานของสมองส่วนเดียว ส่วนนั้น กลายเป็นว่า แทนที่สมองของเรา จะทำหน้าที่ส่วนนั้น 

ในการทำความเข้าใจ หรือ ทำหน้าที่เพียงงานเดียว กลับกลายเป็นว่าทำ ทำ 2 งาน ซะอย่างงั้น หรือ พูดง่าย ๆ  ว่า ต้องแบ่งมาทำความเข้าใจทั้งผู้พูด และ ต้องทำความเข้าใน PP ไปพร้อมกันนั่นเอง 

ทำให้การทำงานของสมอง ถูกลดประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจลง 

 

ขอบเขตของสมอง ในส่วนของการทำความเข้าใจ ภาษา ท่าทาง คำ ความหมายประโยค ให้นึกง่าย ถึงระบบวงจรที่มีมากจากหลายทิศทาง แต่มีทางเข้าทางเดียว ภาพคือมันอุดตันแน่นอน 

และนั่นละ สิ่งที่เกิดขึ้นกับสมองเรา ในส่วนนั้น ตอนทำหลายงาน พร้อม ๆ กัน เพราะหากมันได้ยิน ได้เห็น ได้เข้าใจพร้อมกัน สลับไปมา ระหว่างการประมวลผลชุดข้อมูล ทำให้สมองของเราเกิดความสับสน

นี่คือ 1 เหตุผล ของการนำเสนอผ่าน PP ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และ ไม่น่าสนใจ ทั้งยังจดจำอะไรไม่ได้ เมื่อผ่านไปสักระยะนึงแล้ว

 

แต่สมองเรานั้น ยังทำงานหลายอย่างได้ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ส่วนเดียว ในการทำงานหลายงายพร้อมกัน หรือ ยกตัวอย่างเช่น ทำคุณถึงยังฟัง และ ร้องเพลงได้ หรือ ฟังพอดแคส ในขณะขับรถอยู่

 

ถ้าหากใช้ PP แล้ว ประสิทธิภาพการเข้าใจจะต่ำลง แล้วเราควรทำอย่างไร ?

ไม่ได้แย่ซะทีเดียว เพราะแม้ทำผ่านสไลด์ไม่ได้ ก็ยังพอจะมีวิธีอื่น ที่พอจะทำให้ผู้ฟัง เข้าใจเพิ่มเติมได้ หนึ่งในนั้น คือวิธีสุดแสนคลาสสิก อย่างกระดาษ หลายคนอาจจะงง ว่ากระดาษช่วยยังไง

เพราะเราสามารถใช้กระดาษในการส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับการนำเสนอ ให้ผู้เข้าฟัง ทำความเข้าใจได้ และ แนะนำไม่เกิน 3 หน้า ให้ลองคิดว่าถ้าเป็นเรา อยากจะอ่านเอกสารอะไร ที่เกิน 3 หน้าไหมละ ฮ่าๆ นั่นละคำตอบ 

และข้อสำคัญคือ ให้ผู้ฟังอ่านก่อนเข้าประชุม หรือ ก่อนนำเสนอ ไม่แนะนำให้แจกเอกสาร ให้นำไปอ่านที่บ้าน เพราะยังไงเขาไม่อ่านมาก่อนแน่นอน และ ตอนนำเสนอ แนะนำให้สร้างประสบการณ์ร่วม ยกตัวอย่าง

การเล่นเกม หรือ ร่วมตอบคำถาม เพื่อแลกของจูงใจอะไรบางอย่าง หรือไม่ก็จดไปซะเลย เป็นการเขียนมือ และไม่ให้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อการพิมพ์ เพราะการเขียน ดึงการจำเนื้อหาได้ดีกว่า 

 

ผู้ประกอบการ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าเป็น Amazon หรือ แม้แต่ อิลอนส์ มัสก์ สั่งห้ามการใช้งาน PP ในที่ประชุมเลย โดยเน้นย้ำว่า ผู้เข้าร่วมประชุม จำเป็นต้องอ่านเอกสาร เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

และทำความเข้าใจประเด็นสำคัญ เพื่อการถก หรือ หารือ ในที่ประชุม เนื่องจากผลวิจัยนั้น มีผลออกมาแล้วว่า การใช้ PP ส่งผลในการลดความฉลาด ของบุคคลในองค์กร และด้วยการใช้ประโยชน์จากกระดาษ 

จะเป็นเหตุผลที่เดียวเพียงข้อเดียวเท่านั้น

  • แต่ยังเกี่ยวกับเรื่องของเม็ดเงินที่เสีย และ เวลาที่เสียไปด้วย เพราะว่าการทำ PP ต้องใช้เวลานาน และกินเวลาที่สามารถใช้ทำอย่างอื่น การใช้กระดาษ สามารถกระชับประเด็นให้จบได้ไวขึ้น 
  • เข้าใจ และ ตรงประเด็นมากขึ้น ในการหารือ ในการประชุม เนื่องจากการใช้กระดาษที่มอบให้นั้น หาจุดโฟกัสได้น้อยลง และ ประเด็นที่ต้องอ่านในกระดาษเอง ก็ตรงจุดอยู่แล้ว
  • ผู้เข้าร่วม ได้เข้าร่วมจริงๆ ถกประเด็นได้อย่างเต็มที่ 

 

ต้องบอกว่า มีเวลาเฉลี่ย ของผู้บริหาร เกี่ยวกับการใช้เวลาในการนำเสนอ คิดจากเวลาในการเข้าประชุมทั้งหมด ประมาณ 50% ของเวลา และ 1 / 3 ของเวลา ที่นำเสนอนั้น เป็นไปด้วยความเปล่าประโยชน์

เนื่องจากนำเนื้อหาที่ควรจะโฟกัส ไปใช้กับ PP และ ทำให้การนำเสนอนั้น ๆ ไร้ประสิทธิภาพไปด้วย ในช่วงเนื้อหา ที่มี PP เข้ามาเกี่ยวข้อง ในการนำเสนอ นี่จึงเป็นเหตุผล

ของที่มา ในเรื่องของสมองเรา ที่มันเกลียด PP เนื่องจากการรับภาระที่หนักอึ้ง ในการประมวลผล และ ทำความเข้าใจเนื้อหาเรื่องเดียว จากแหล่งที่มาสองที่ และ

ต้องถูกนำมาแปลความในสมองของแต่ละคน เพื่อสร้างภาพของความเข้าใจ ในแต่ละคน ที่แตกต่างกันอีกด้วย

 

REF :

https://www.inc.com/geoffrey-james/science-just-discovered-your-brain-really-hates-powerpoint.html

https://www.inc.com/geoffrey-james/the-worlds-best-communicators-dont-use-powerpoint.html

https://www.inc.com/geoffrey-james/the-worlds-best-communicators-dont-use-powerpoint.html